การทำภาพยนต์ออกมาเรื่องหนึ่งนั้นต้องมีการทำงานทั้งในเบื้องหน้าและเบื้องหลัง และการออกแบบโปสเตอร์ภาพยนต์นั้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบมาอย่างดี เพราะว่าตัวโปสเตอร์ภาพยนต์นี้เป็นตัวดึงดูดแรกจากผู้ชม ว่าภาพยนต์เรื่องนี้น่าดูหรือไม่ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นควรจะมีรางวัลสำหรับคนเบื้องหลังในส่วนนี้ ให้ผู้ทำงานเบื้องหลังได้มีกำลังใจ และภาคภูมิใจในฝีมือตัวเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองต่อไปอีก
หนึ่งในรางวัลสำหรับคนเบื้องหลัง คือ รางวัลการออกแบบโปสเตอร์ภาพยนต์ไทยยอดเยี่ยม สวนดุสิต ไทยมูฟวี่ โปสเตอร์ อะวอร์ดส แล้วประจำปี 2226-2557 โดยในปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้วจัดโดยหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฆิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ส่วนในเรื่องของการตัดสินนั้น กรรมการใช้เกณฑ์การตัดสินจากหลายมิติ เช่น การสื่อสารที่ชัดเจน การจัดวางองค์ประกอบ การออกแบบตัวอักษร การใช้โครงสี และการเล่าเรื่อง ฯลฯ โดยรางวัลชนะเลิศในปีนี้นั้นตกเป็นของ โปสเตอร์ภาพยนต์เรื่อง ฮาชิมะโปรเจกต์ จาก M39 พร้อมรางวัลป๊อปปูล่าร์โหวตไปอีก 1 รางวัล
การจัดวางองค์ประกอบของภาพนั้นก็ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องราวได้อย่างหนึ่ง จากที่ดูแล้วสามารถตีความได้ว่า หนังเรื่องนี้จะต้องไปถ่ายทำที่เมืองร้าง เป็นตึกเก่าๆที่มีเรื่องลี้ลับอยู่อย่างแน่นอน ภาพที่สื่อออกมานั้นมีความน่ากลัว ความหลอน และเรือนราง มีนักแสดงนำห้าคนและมีผีหนึ่งตัว เรื่องจะต้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของห้าคนนี้ ผ่านการผจญภัยกับสิ่งลี้ลับมาจนเนื้อตัวมอมแมม
การออกแบบตัวอักษรนั้นและเรื่องการใช้โทนสีนั้น แค่ดูชื่อเรื่องอย่างเดียวก็รู้แล้วว่าต้องเป็นหนังผี เพราะตัวอักษรนั้นมีความหลอน ความน่ากลัวอยู่ในตัวโดยการทำให้ตัวอักษรเลอะๆ เหมือนเปื้อนฝุ่น ตรงคำว่าฮาชิมะนั้นใช้รูปแบบตัวอักษรที่ขาดๆ ตรงปลายคล้ายกับเลือดทำให้ดูน่ากลัวขึ้น โทนสีที่ใช้นั้นคือสีดำและเทาเป็นหลักสื่อถึงความดำมืด สิ่งลี้ลับ ผีสาง ความน่ากลัว และนำสีแดงที่สื่อถึงความกล้าหาญและเลือด มาตัดกันทำให้ชื่อเรื่องดูโดดเด่นขึ้นมาจากโปสเตอร์เป็นอย่างมาก
การที่เราจะเลือกชมภาพยนต์แต่ละเรื่องนั้น โปสเตอร์ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งในการตัดสินใจ บางเรื่องอาจจะดูสนุกสนาน ตลก น่ากลัว ลี้ลับ เข้มข้น ก็แล้วแต่รูปแบบที่ต้องการนำเสนอ ถ้าเราได้เห็นโปสเตอร์สวยๆ สื่อความหมายได้ดี น่าติดตาม ก็ทำให้เรารู้สึกอยากดูภาพยนต์เรื่องนั้นขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นความน่าติดตามของภาพยนต์ก็อาจตัดสินกันได้จากโปสเตอร์เลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www2.dusit.ac.th/sdu/activities/news/2014-06-9/evt_03035.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น